วิธีติดตั้ง Apache และ PHP บน Mac OSX

บทความนี้จะสอน และ แนะนำวิธีการติดตั้ง Apache เพื่อจำลอง Webserver และสอนการติดตั้ง PHP บน Mac OSX โดยไม่ต้องใช้ Tool เช่น MAMP ช่วย เครื่องจะได้เบา และ ไม่ต้องมีปัญหากับการ เปิด - ปิด Service
อันที่จริงแล้ว จะเรียกว่าติดตั้งก็คงไ่ม่ได้ เพราะ Default ของตัว Mac OSX เองติด Apache และ PHP มาให้อยู่แล้วเราแค่เข้าไปเปิดใช้งานก็สามารถใช้ได้ทันที มาดูวิธีการเปิดใช้งานกันดีกว่า.........
ขั้นตอนที่ 1 : เปิดใช้งาน Apache
1. เปิด Terminal
2. พิมพ์ sudo apachectl start
MBPs-MacBook-Pro:~ MBP$ sudo apachectl start
แค่นี้เครื่อง Mac ของคุณก็พร้อมที่จะรัน Web Server ได้แล้ว สามารถทดสอบได้โดยการพิมพ์ http://localhost ใน Browser หากขึ้นหน้าจอดังรูป ก็แสดงว่าสามารถใช้งานได้แล้วครับ
แต่......เราจะเก็บไฟล์ไว้ตรงไหนล่ะ Default ของ Apache ที่ติดมากับตัว Mac OS เก็บไฟล์ค่อนข้างลึก ยากต่อการใช้งาน เรามาดูวิธีการ Set ให้ตัว Apache รัน Web จาก Folder ที่เราต้องการกันดีกว่า
ขั้นตอนที่ 2 : Set www directory ให้ Apache
1. สร้าง Folder ที่เราจะเก็บ Project (Websites) ของเรารอไว้ก่อนเลย สำหรับผมแล้ว Set ไว้ใน /Users/MBP/Sites ( MBP คือ ชื่อ User ที่กำลัง Login อยู่)
2. จากนั้นให้เปิด Terminal แล้วพิมพ์ sudo nano /private/etc/apache2/httpd.conf
MBPs-MacBook-Pro:~ MBP$ sudo nano /private/etc/apache2/httpd.conf
*** หากโดนถาม Password ให้ใส่ Password เข้าไป ในกรณีที่ยังไม่เคยมีการตั้ง Password ให้ไปตั้ง Password ก่อน
3. กดปุ่ม control+w บนคีย์บอร์ด แล้วพิมพ์ DocumentRoot
4. ให้แก้ DocumentRoot ไปยัง Folder ที่เราต้องการเก็บ Project ในตัวอย่างนี้ แก้เป็น
DocumentRoot "/Users/MBP/Sites"
5. กดปุ่ม control+x เพื่อออกจากหน้าจอ (nano)
6. จะโดนถามว่าให้ Save ทับไฟล์เก่าไหม (Save modified buffer (ANSWERING "No" WILL DESTROY CHANGES) ? )
7. กด Y เพื่อตอบตกลงการ Save ไฟล์
8. จะโดนถามอีกรอบว่าต้องการ Save ไฟล์ชื่อ....? ( File Name to Write: /private/etc/apache2/httpd.conf )
9. ให้กด Enter ผ่านไปเลย
ทีนี้ลองไปสร้างไฟล์ html อะไรก็ได้ใน Folder ที่เราสร้างไว้ ก็จะสามารถใช้งานได้แล้วครับ
-
21 ตุลาคม 2557
โดย Admin
0 ความคิดเห็น
ความคิดเห็น